Last updated: 21 ต.ค. 2565 | 940 จำนวนผู้เข้าชม |
สำหรับใครที่ต้องทำงานนอกบ้าน กลับมาบ้านมาก็เหนื่อยแล้ว ไม่ค่อยมีเวลาในการทำความสะอาดบ้าน รวมไปใครที่เป็นสายขี้เกียจ เพียงแค่คิดว่าจะต้องทำงานบ้าน คิดถึงขั้นตอนการทำความสะอาดบ้านก็อยากจะสลบทันที แต่วันนี้ไม่ต้องกังวลไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะปัจจุบันมีตัวช่วยในการทำความสะอาดบ้านอยู่มากมายหลายวิธี และหลายรูปแบบ ดังนี้
1. หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ตัวช่วยยามขี้เกียจ
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ตัวช่วยที่ทำให้เจ้าของบ้านมีเวลาจัดการอย่างอื่นได้อีกมากมาย และมีการใช้งานที่สะดวก เพียงแค่กดปุ่ม ตั้งเวลาเปิด-ปิด ด้วยนวัตกรรมในปัจจุบัน หุ่นยนต์ดูดฝุ่นจึงได้ถูกพัฒนาให้มีหลากหลายฟังก์ชันมากขึ้น เช่น สามารถจดจำและทำงานต่อได้ในพื้นที่ที่ยังไม่ได้ทำความสะอาด พร้อมเซนเซอร์เพื่อป้องกันการตกบันไดหรือจะตกจากที่สูง รวมไปถึงความสามารถในการถูพื้นได้อีกด้วย
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นแม้จะมีข้อดีที่ช่วยให้มีเวลาเหลือมากพอไปจัดการกับส่วนอื่นของบ้าน แต่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นก็ยังมีข้อจำกัดบางประการ ได้แก่ การที่ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่แคบ พื้นที่ที่เป็นซอกหลืบ และไม่สามารถทำความสะอาดในพื้นที่ที่มีพรมวางอยู่ได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะทำความสะอาดพื้นได้ดีไม่เท่ากับมนุษย์ แต่ก็ช่วยให้พื้นบ้านนั้นสะอาดได้ระดับหนึ่ง ประหยัดเวลา และไม่ต้องทำความสะอาดเองบ่อยๆ
2. เปลี่ยนการกวาดพื้นให้เป็นเรื่องง่ายด้วยเครื่องดูดฝุ่น
หลายคนอาจรู้สึกว่าการใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอาจจะสะอาดได้ไม่มากพอ ไม่ถึงใจ แต่ครั้นจะให้ไปกวาดบ้านก็ขี้เกียจอีก เครื่องดูดฝุ่นจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่สามารถทำความสะอาดได้ดีกว่า สามารถทำความสะอาดได้แม้พื้นที่ซอกซอน โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นมุมห้อง เพราะเครื่องดูดฝุ่นมีหลายหัวดูด อาทิ หัวดูดฝุ่นปากแบน และปากแคบ หัวดูดทรงรี หัวดูดทรงสี่เหลี่ยม และหัวดูดแบบที่หักงอพับเก็บได้ เป็นต้น สามารถให้เลือกหัวดูดได้ตามความเหมาะสมของพื้นที่ ไม่ต้องกังวลว่าฝุ่นจะฟุ้งกระจาย
นอกจากนี้ การทำความสะอาดบ้านด้วยเครื่องดูดฝุ่นจะเหนื่อยน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการกวาดบ้านด้วยไม้กวาด เรียกได้ว่าการใช้เครื่องดูดฝุ่นนั้นมีฟังก์ชันค่อนข้างครบเลยทีเดียว
ซึ่งขั้นตอนการทำความสะอาดบ้านด้วยเครื่องดูดจะมีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ คือ ควรเริ่มดูดตั้งแต่เพดาน ลงมาที่กำแพง ผ้าม่าน และพื้นห้อง ทั้งนี้ ถ้าหากเป็นห้องนอนควรเปลี่ยนชุดผ้าปูที่นอน และปลอกหมอนทุกครั้งหลังการดูดฝุ่นเสร็จ เนื่องจากอาจมีเศษฝุ่นผงบางส่วนในขณะที่ดูดฝุ่น อาจจะฟุ้งไปเกาะที่เตียงนอนได้
ข้อควรรู้ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งสำหรับใครที่ใช้เครื่องต่างๆ ในการทำความสะอาดบ้าน ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่น หรือเครื่องดูดฝุ่น อย่าลืมนำถุงกรองฝุ่นออกมาทำความสะอาดด้วย เพราะถ้าหากถุงกรองฝุ่นเต็ม จะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการดูดฝุ่นลดลง บ้านจะไม่สะอาดเท่าที่ควร
3. ฝุ่นไม่ฟุ้งกระจาย กวาดพื้นง่าย ด้วยสเปรย์ดักจับฝุ่น
สำหรับใครที่ไม่มีทั้งหุ่นยนต์ดูดฝุ่น และเครื่องดูดฝุ่น ต้องทำความสะอาดบ้านด้วยการใช้ไม้กวาด ถ้าไม่ต้องการให้ฝุ่นฟุ้งกระจายขณะกวาด แนะนำให้ใช้สเปรย์ดักจับฝุ่น เพียงแค่พ่นให้ทั่วพื้นห้องก่อนการกวาด จะส่งผลให้ฝุ่นมีน้ำหนักมากขึ้น ทำให้กวาดได้ง่ายขึ้น ไม่ฟุ้งกระจาย ในปัจจุบันมีหลายยี่ห้อที่ปราศจากแอลกอฮอล์ มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ และยังมีกลิ่นหอมอ่อน ช่วยให้ห้องมีกลิ่นหอมสดชื่น และไม่ฉุนอีกด้วย
4. ลดปริมาณฝุ่นด้วยเครื่องฟอกอากาศ
หลายคนคงคุ้นหูกับคำว่า “เครื่องฟอกอากาศ” มากขึ้น เพราะปัจจุบันมีหลายบริษัทที่ผลิตและคิดค้นเครื่องฟอกอากาศออกมามากมายที่คุณภาพเยี่ยมในราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น แถมใช้งานง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว ตั้งเวลาเปิด-ปิดได้
เครื่องฟอกอากาศนอกจากจะช่วยฟอกอากาศ คืนอากาศบริสุทธิ์ให้กับห้องแล้ว ยังเป็นการทำให้บรรยากาศภายในห้องสดชื่นอีกด้วย ซึ่งฟังก์ชันหลักของเครื่องฟอกอากาศ คือ สามารถช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองที่ล่องลอยอยู่ในอากาศได้อีกด้วย และเมื่อฝุ่นละอองน้อยลง ก็ส่งผลให้ไม่ต้องทำความสะอาดบ้านบ่อยๆ นั่นเอง
5. จบปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ติดบ้านด้วยเครื่องล้างจาน
เพราะทุกคนต้องทานอาหาร และเมื่อรับประทานภายในบ้าน ผลที่ตามมาคือ เกิดกลิ่นอับภายในบ้าน จานชามที่กองอยู่ในอ่างล้างชามบางส่วนก็ชื้น ทำให้เกิดกลิ่นอับชื้นมากเข้าไปอีก บางส่วนก็แห้งเกรอะกรัง ด้วยความที่ขี้เกียจล้างจานจึงปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น ซึ่งนั่นทำให้การล้างจานเป็นอะไรที่ยากลำบากมากขึ้นไปอีก ก็ยิ่งขี้เกียจมากขึ้นไปอีก
“เครื่องล้างจาน” จึงเป็นอีกหนึ่งทางออกสำหรับสายขี้เกียจ เพราะเพียงแค่เติมน้ำยาล้างจานลงไป จากนั้นนำจานวางเรียงกันบนตะแกรงใส่ภาชนะ กดปุ่มให้เครื่องทำงาน ขั้นตอนสุดท้ายคือการอบจานหรืออบภาชนะให้แห้ง เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียและกลิ่นอับอันไม่พึงประสงค์ เท่านี้ชีวิตก็ง่ายขึ้นแล้ว
6. จ้างแม่บ้านมาทำความสะอาด
เชื่อว่าคนรู้และเข้าใจว่าขั้นตอนการทำความสะอาดบ้านนั้น ในบางเรื่องและบางห้องไม่สามารถทำได้ครบจบได้ภายในวันเดียว ผนวกกับที่บ้านไม่ได้มีตัวช่วยอย่างหุ่นยนต์ดูดฝุ่น หรือเครื่องดูดฝุ่น แต่ก็ไม่ไหวกับการที่ต้องมาทำความสะอาดบ้านเองเช่นกัน หากใครที่กำลังเผชิญสถานการณ์นี้อยู่ แนะนำให้ว่าจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดให้จะเหมาะที่สุด เริ่มต้นจากการหาข้อมูลเกี่ยวกับอัตราจ้างแม่บ้านว่าอยู่ที่เท่าไหร่ ทำงานแบบประจำหรือแบบไป-กลับ รวมถึงงานบ้านที่จะให้แม่บ้านทำนั้นมีขอบเขต หรือกติกาอะไรบ้าง จากนั้นก็ให้กำหนดราคาเอาไว้คร่าวๆ ก่อนการตกลงว่าจ้าง
แนะนำวิธีจัดบ้านให้สะอาดนาน ไม่ต้องทำความสะอาดบ่อย
เรื่องของการทำความสะอาดบ้านกับสายขี้เกียจ คงเป็นอะไรที่จูนเข้ากันได้ยาก แต่ถ้ามีการจัดระเบียบบ้านให้ดี ก็จะส่งผลให้ไม่ต้องมีการทำความสะอาดกันบ่อยๆ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
เพิ่มปริมาณถังขยะภายในบ้าน
หลายคนรู้สึกว่าเพราะถังขยะอยู่ไกล ขี้เกียจเดินไปทิ้ง เอาวางไว้ตรงนี้ก่อน จึงทำให้พบว่ามีการวางกระดาษทิชชูใช้แล้ว หรือซองพลาสติกต่างๆ เอาไว้ทั่วบ้านโดยที่ไม่รู้ตัว เพราะลืมเอาไปทิ้ง แต่ข้อดีของการเพิ่มปริมาณถังขยะภายในบ้านตามจุดต่างๆ ภายในบ้านก็จะเท่ากับเป็นการย้ำเตือนให้เราทิ้งขยะให้ถูกที่ทันที ไม่ปล่อยลืมไว้จนกลายเป็นขยะในบ้าน และที่สำคัญ การเพิ่มปริมาณถังขยะภายในบ้านยังเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกดีๆ ในการทิ้งขยะให้ถูกที่ถูกทางอีกด้วย
พยายามเก็บข้าวของไว้ในตู้
ที่ใดมีอากาศ มีลมพัดผ่านที่นั่นมักมีฝุ่น และยิ่งถ้าบ้านใครนิยมที่จะเปิดประตู หรือเปิดหน้าต่างไว้ ข้อดีคือเพื่อช่วยให้อากาศในบ้านถ่ายเทได้สะดวก ข้อเสียคือ ทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ อาทิ เสื้อผ้าที่เป็นตัวเก็บฝุ่นได้ง่าย หรือโต๊ะเครื่องแป้งที่มักจะเห็นข้าวของเครื่องใช้มากมายที่วางรวมกันอย่างระเกะระกะ แบบนี้ก็ยิ่งทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นได้ง่าย ลองสังเกตดูว่าหลังจากที่ได้เช็ดฝุ่นออกแล้ว แต่ปริมาณข้าวของยังท่าเดิม วางระเกะระกะเหมือนเดิม เพียง 2-3 วัน ก็เกิดฝุ่นสะสมได้มากแล้ว
ฝุ่น นอกจากจะเป็นสาเหตุของโรคในระบบทางเดินหายใจแล้ว ยังทำความสะอาดได้ยากอีกด้วย ยกตัวอย่างขณะที่เช็ดทำความสะอาดโต๊ะเครื่องแป้งลองสังเกตตามมุมหรือซอกของโต๊ะ จะพบว่ายังมีฝุ่นที่เกาะติดอยู่ซึ่งทำความสะอาดได้ยากมาก กลับกันหากเรามีการจัดเรียงข้าวเครื่องใช้บนโต๊ะทันทีหลังใช้งานเสร็จ ก็จะช่วยลดงาน และลดขั้นตอนการทำความสะอาดบ้านได้อีกเยอะทีเดียว
ลดปริมาณพรมภายในบ้าน
การตกแต่งบ้านด้วยพรม ไม่ว่าจะเป็นพรมขนสั้น หรือพรมขนยาว จะช่วยทำให้บ้านดูดีมากขึ้น แต่ข้อจำกัดอีกเรื่องคือ พรมเป็นตัวเก็บกักฝุ่นได้ดีเช่นกัน และที่สำคัญ ต่อให้ใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นก็ไม่สามารถดูดฝุ่นบนพรมได้ ยกเว้นว่าจะใชเครื่องดูดฝุ่นช่วย แต่การแก้ไขที่สาเหตุอย่างการปรับลดปริมาณพรมในบ้านลง ก็ย่อมเป็นการช่วยลดการเกิดฝุ่นในบ้านได้ดีกว่า และลดปัญหาเรื่องของสุขภาพได้อีกด้วย
ติดตั้งชั้นวาง หรือใช้กล่องเก็บรองเท้า
อีกหนึ่งสาเหตุของฝุ่นในบ้านที่หลายคนอาจคิดไม่ถึงนั่นก็คือ ฝุ่นที่ติดมากับรองเท้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านไหนที่มักจะเก็บรองเท้าไว้ภายในบ้าน ถึงแม้ว่าจะมีชั้นวางรองเท้า เพื่อการจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบแล้ว แต่ก็ดูเหมือนจะไม่พอกับความต้องการที่จะลดฝุ่นภายในบ้าน เพราะฝุ่นจากรองเท้าที่ติดมาจากนอกบ้าน จะยังฟุ้งกระจายอยู่ภายในบ้านได้
ดังนั้น การจัดระเบียบเพื่อการลดฝุ่นของรองเท้า แนะนำว่าควรนำรองเท้าใส่กล่องเก็บรองเท้าให้เรียบร้อย ซึ่งปัจจุบันมีกล่องเก็บรองเท้าหลากหลายรูปแบบที่สามารถวางซ้อนกันได้ พร้อมกันนี้ การใส่รองเท้าภายในบ้านก็สามารถช่วยลดการเกิดฝุ่นกระจายในบ้านได้อีกวิธีหนึ่ง เพราะหลังจากที่ไปทำธุระข้างนอกบ้านมา เท้าของเราจะมีฝุ่นจากข้างนอกติดเข้ามาด้วย และถ้าหากไม่ได้ใส่รองเท้าภายในบ้าน อาจทำให้ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบ้าน และเป็นการพาเอาเชื้อโรคจากนอกบ้านมาได้อีกด้วย
เพราะบ้านคือที่อยู่อาศัย เป็นสถานที่อันแสนอบอุ่นที่คนในครอบครัวจะได้ใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขด้วยกัน เพื่อรักษาความสวยงามและบรรยากาศดีๆ ภายในบ้าน การนำขั้นตอนการทำความสะอาดบ้านมาปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม สิ่งนี้นอกจากจะทำให้บ้านสะอาด น่าอยู่ และน่ามองแล้ว การทำความสะอาดบ้านยังสามารถนำมาใช้เป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ของคนในครอบครัวได้ด้วย นับเป็นการสร้างบรรยากาศของครอบครัวให้มีสีสันและมีชีวิตชีวาอีกด้วย
3 พ.ค. 2567
24 พ.ค. 2567
10 พ.ค. 2567
17 พ.ค. 2567